CloudHealth โฉมใหม่ 2025 ยกระดับ FinOps ด้วย AI และ Dashboard อัจฉริยะ

ประกาศเปิดตัว CloudHealth โฉมใหม่ พร้อมให้ใช้งานทั่วไปแล้ว

ประสบการณ์ใหม่ บทใหม่ของ CloudHealth แต่ยังคงเดินหน้าทลายข้อจำกัดของ FinOps ต่อไป

ในงาน FinOps X ณ เมืองซานดิเอโก CloudHealth ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นแพลตฟอร์ม โดยเปิดตัวประสบการณ์ใหม่ของ CloudHealth ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ปฏิบัติงาน FinOps ยุคใหม่โดยเฉพาะ พร้อมรองรับความท้าทายและข้อกังวลใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก FinOps ซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Intelligent Assist และ Smart Summary ประสบการณ์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของลูกค้า และผลักดันให้ FinOps กลายเป็นวัฒนธรรมในระดับองค์กร

นับตั้งแต่ปี 2012 CloudHealth เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการการเงินบนระบบคลาวด์ (Cloud Financial Management หรือ FinOps) และในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา โลกได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ซอฟต์แวร์ ทรัพยากร และล่าสุดคือ AI การให้ภาพรวมของการใช้งานคลาวด์ การแนะนำแนวทางในการปรับปรุง และการกำกับดูแลกลายเป็นเพียงพื้นฐาน เพราะตอนนี้ทีม FinOps ต้องจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนขึ้น รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้าน IT ที่ขยายตัว และประสานงานกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมากขึ้น

ประสบการณ์ใหม่ของ CloudHealth ช่วยให้ทีม FinOps และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ และทำให้การบริหารจัดการระบบที่ซับซ้อนง่ายขึ้น ทั้งยังต่อยอดจากความสามารถเดิมของ CloudHealth ที่รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง, ผสานเครื่องมือภายนอก, สร้างรายงานเชิงลึก และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงให้ยืดหยุ่นตามโครงสร้างองค์กรได้ โดยการอัปเกรดนี้ช่วยให้การดำเนินงานตามเป้าหมายของ FinOps ทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเร่งการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจให้เกิดขึ้นได้จริง

Intelligent Assist – ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับ FinOps

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญที่สุดของ CloudHealth โฉมใหม่คือ Intelligent Assist หรือผู้ช่วย AI สำหรับ FinOps ซึ่งฝังตัวอยู่ในแพลตฟอร์ม ช่วยให้ผู้ใช้งานใช้ CloudHealth ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำการใช้งาน, การสร้างรายงานซับซ้อน, การให้คำแนะนำเชิงลึก และอื่น ๆ โดย Intelligent Assist เป็นแชตบ็อตที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษา (LLM) ซึ่งสามารถโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น ขอรายงานเฉพาะ หรือขอคำแนะนำที่ตรงกับการใช้คลาวด์ของตนเอง

จุดเด่นคือ ช่วยให้ผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญทำงานได้เร็วขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่สายเทคนิคสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานได้ง่าย ส่งเสริมการทำงานร่วมกันในทีม FinOps และองค์กร โดยทุกคนสามารถใช้ข้อมูลเดียวกันในการตัดสินใจรายวัน

ผู้ใช้งานสามารถใช้ Intelligent Assist เพื่อค้นหาทรัพยากรเฉพาะ, สร้างรายงาน, หรือเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบ Multi-cloud ได้อย่างรวดเร็ว Intelligent Assist ยังถูกรวมเข้าใน Smart Summary เพื่อแสดงรายการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรที่อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่าย พร้อมคำแนะนำการดำเนินการตามแนวปฏิบัติของ FinOps

Smart Summary – รายงานสรุปอัจฉริยะ

ในยุคที่ใช้ Public Cloud หลายแห่งพร้อมกัน การติดตามการเปลี่ยนแปลงรายวันในระบบกลายเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ Smart Summary จะช่วยสรุปสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายบนคลาวด์อย่างกระชับ เช่น อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร พร้อมคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI ว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป

จุดเด่นคือการตรวจจับระดับทรัพยากร (Resource-level) พร้อมคำอธิบายสาเหตุและแนวทางปฏิบัติต่อ ช่วยให้ทีมสามารถติดตาม ทำความเข้าใจ และสื่อสารเรื่องการใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

Asset Explorer – เห็นภาพครอบคลุมของทรัพยากรทั้งหมด

การดูทรัพยากรคลาวด์ไม่ใช่แค่ดูว่าทรัพยากรนั้นอยู่ที่ไหนหรือมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่ต้องสามารถมองเห็นว่ามีความสัมพันธ์กับอะไร, มี tag อะไรบ้าง, และกำลังถูกใช้งานอย่างไร Asset Explorer ช่วยให้ผู้ใช้เห็น metadata ของทรัพยากรแบบ On-demand พร้อมความเชื่อมโยงระหว่างกัน

ผู้ใช้สามารถรัน query เพื่อค้นหา tag เฉพาะ, ดิสก์หรือ volume ที่ไม่ได้ใช้งาน, snapshot เก่า หรือ VM ที่ idle ได้ โดยทั้งหมดนี้ทำผ่าน UI ที่ใช้งานง่าย และยังผสานกับ Intelligent Assist เพื่อค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติได้อีกด้วย

Optimization & Realized Savings Dashboards – แดชบอร์ดวัดผลการประหยัดและปรับปรุง

การปรับแต่งการใช้งานคลาวด์ให้คุ้มค่าเป็นภารกิจต่อเนื่องของทีม FinOps แต่การตอบคำถามว่า “องค์กรประหยัดเงินไปเท่าไหร่?” กลับเป็นเรื่องที่ยาก CloudHealth โฉมใหม่จึงมีแดชบอร์ด 2 แบบ:

1. Optimization Dashboard
   แสดงคำแนะนำที่สามารถช่วยประหยัดได้ทันที เช่น การใช้ commitment discount, การปรับขนาดทรัพยากร, และการตรวจจับการใช้จ่ายผิดปกติ
   -จุดเด่นคือรวบรวมคำแนะนำที่ “สำคัญที่สุด” ไว้ในที่เดียว เพื่อให้ทีมรู้ว่าควรเริ่มปรับตรงไหนก่อนเพื่อให้เห็นผลเร็ว

2. Realized Savings Dashboard
   แสดงผลรวมของการประหยัดที่ทำได้จริง (aggregated savings)
   -มี widget ให้เลือก เช่น commitment utilization, unit cost, effective savings rate
   -ช่วยให้ทีม FinOps พิสูจน์คุณค่าของตนต่อองค์กรได้ชัดเจน

Custom Reports – รายงานแบบปรับแต่งได้เอง

การสร้างรายงานระดับคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) มักซับซ้อน CloudHealth โฉมใหม่จึงมาพร้อมระบบรายงานที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถ:

• เลือกใช้รายงานสำเร็จรูป

• สร้างรายงานเองผ่าน UI ใหม่

• เขียน SQL เองในตัวแก้ไข (IDE) ที่ฝังมา

• ใช้ Intelligent Assist สร้างรายงานด้วยภาษาธรรมชาติ

ยังสามารถสร้าง Calculated Column เพื่อเจาะลึกข้อมูลที่ซับซ้อน และแชร์รายงานไปยังทีม หรือกลุ่มลูกค้าในองค์กรได้อย่างยืดหยุ่น

Custom Widgets & Dashboards – แดชบอร์ดที่ยืดหยุ่นที่สุด

ในโลกของ FinOps ที่มีหลายบทบาท CloudHealth โฉมใหม่อนุญาตให้ผู้ใช้ สร้างแดชบอร์ดของตนเองได้ 100% พร้อมเพิ่ม widget ที่ออกแบบเอง เช่น:

• คำแนะนำการปรับปรุง

• ความคุ้มค่าของ commitment

• การใช้จ่ายผิดปกติ

• ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง

สามารถลากย้ายและปรับขนาด widget ได้ตามใจผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้แต่ละคนมองเห็นสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ตนเองได้ทันที

ที่มา https://blogs.vmware.com/tanzu/announcing-the-general-availability-of-the-new-cloudhealth-experience/

สอบถามหรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่
💬Line: @monsteronline
☎️Tel: 02-026-6664
📩Email: sales@mon.co.th