CrowdStrike เผชิญผลกระทบจากเหตุอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ล้มเหลว

CrowdStrike กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินและชื่อเสียง หลังการอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ในเดือนกรกฎาคม 2024 ที่ล้มเหลวจนทำให้คอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกหยุดทำงาน แม้บริษัทจะมีรายได้ในไตรมาส 3 สูงถึง 1.01 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังคงขาดทุนสุทธิ 17 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากการสมัครใช้บริการอยู่ที่ 926 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31%

อย่างไรก็ตาม CrowdStrike ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบระยะยาวต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและยอดขายได้ CFO เบิร์ต โพดแบร์ เปิดเผยในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นว่า ลูกค้ามีความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้กระบวนการขายยืดเยื้อ การต่ออายุการสมัครล่าช้า และต้องผ่านการอนุมัติมากขึ้น

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ CrowdStrike ได้เปิดตัว "แพ็กเกจความเชื่อมั่นลูกค้า" (Customer Commitment Packages หรือ CCPs) โดยมีข้อเสนอพิเศษ เช่น เงื่อนไขการชำระเงินที่ยืดหยุ่น และการต่ออายุการสมัครใช้งาน แม้ข้อเสนอนี้จะช่วยเพิ่มการใช้งานโมดูลในไตรมาส 3 แต่โพดแบร์เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่าผลลัพธ์นี้จะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 หรือไม่ และยังมีความเสี่ยงที่ยอดขายเสริมจะลดลงหรือจำนวนลูกค้าลดลงมากกว่าปกติ

นอกจากนั้น CrowdStrike ยังต้องรับมือกับคดีความที่เกิดจากความล้มเหลวของการอัปเดต เช่น คดีจาก Delta Airlines ที่เรียกร้องค่าเสียหาย 500 ล้านดอลลาร์ หลังต้องยกเลิกเที่ยวบินประมาณ 7,000 เที่ยวเพราะระบบล่ม อย่างไรก็ตาม บริษัทพบว่าดีลใหม่ที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่

ซีอีโอ จอร์จ เคิร์ตซ์ แสดงความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของ CrowdStrike ยังมีความสำคัญสำหรับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากลูกค้ารายใหญ่ เขายังกล่าวว่าการที่ผู้ให้บริการขนาดเล็กบางรายยกเลิกสัญญาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวล โดยหลังการประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้นของ CrowdStrike ลดลงจาก 364.50 ดอลลาร์ เหลือ 343.80 ดอลลาร์ ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ

ข้อมูลจาก https://www.theregister.com/2024/11/27/crowdstrike_q3_2025/