DeepSeek R1 AI ที่มาแรงจากจีน พร้อมทักษะการให้เหตุผลเหนือชั้น

DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพ AI จากจีน ได้เปิดตัวโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่ท้าทายความสามารถของ OpenAI อย่าง GPT-4o และโมเดลอื่นๆ จากบริษัทชั้นนำอย่าง Meta และ Anthropic โดยเฉพาะโมเดล DeepSeek V3 และ R1 ที่เน้นการให้เหตุผลแบบห่วงโซ่แห่งความคิด (Chain-of-Thought: CoT) ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถแยกคำถามออกเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อวิเคราะห์และตอบคำถามได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ข้อดีของ DeepSeek R1

1. การให้เหตุผลแบบ CoT: DeepSeek R1 ใช้เทคนิค CoT เพื่อแยกคำถามออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำในการตอบคำถาม

2. ประสิทธิภาพสูง: แม้จะใช้ทรัพยากรน้อยกว่าโมเดลจากตะวันตก แต่ DeepSeek R1 สามารถแข่งขันได้ในหลายด้าน เช่น การนับอักขระ การคำนวณคณิตศาสตร์ และการแก้ปัญหาการวางแผน

3. ต้นทุนต่ำ: DeepSeek ฝึกโมเดลด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง โดยใช้ GPU เพียง 2,048 ตัว และโทเค็น 14.8 ล้านล้านโทเค็น

การทดสอบ DeepSeek R1

1. การนับอักขระ: R1 สามารถนับอักขระในคำได้อย่างถูกต้อง เช่น นับตัว "R" ในคำว่า "strawberry" ได้ถูกต้อง ในขณะที่โมเดลขนาดเล็กอาจมีข้อผิดพลาด

2. การคำนวณคณิตศาสตร์: R1 สามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์พื้นฐานได้ดี แต่โมเดลขนาดเล็กอาจมีข้อจำกัดในการคำนวณที่ซับซ้อน

3. การแก้ปัญหาการวางแผน: R1 สามารถแก้ปัญหาการขนส่ง (เช่น ปัญหาชาวนา แพะ หมาป่า และกะหล่ำปลี) ได้อย่างถูกต้อง

4. การใช้เหตุผลเชิงพื้นที่: R1 สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการจัดเรียงตำแหน่งในวงกลมได้ แต่บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาด

ข้อจำกัดของ DeepSeek R1

1. การเซ็นเซอร์: เช่นเดียวกับโมเดล AI อื่นๆ จากจีน DeepSeek R1 ถูกเซ็นเซอร์เพื่อหลีกเลี่ยงหัวข้อที่ละเอียดอ่อนทางการเมือง เช่น เหตุการณ์เทียนอันเหมิน

2. ความเร็วในการประมวลผล: การใช้เทคนิค CoT ทำให้โมเดลใช้เวลานานขึ้นในการตอบคำถาม เนื่องจากต้องสร้าง "ความคิด" หลายขั้นตอนก่อนให้คำตอบสุดท้าย

3. ข้อจำกัดของโมเดลขนาดเล็ก: โมเดลที่มีพารามิเตอร์น้อย (เช่น 1.5B หรือ 7B) อาจไม่น่าเชื่อถือในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

DeepSeek R1 เป็นโมเดล AI ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในด้านการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การใช้เทคนิค CoT ทำให้โมเดลใช้เวลานานขึ้นในการตอบคำถาม และโมเดลขนาดเล็กอาจมีข้อจำกัดในการทำงาน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้ DeepSeek R1 บนเครื่องส่วนตัวได้ผ่าน Ollama และ Open WebUI ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายคลึงกับ ChatGPT

FAQ

1. DeepSeek R1 คืออะไร?

>DeepSeek R1 คือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย DeepSeek สตาร์ทอัพ AI ของจีน R1 ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการใช้เหตุผลแบบห่วงโซ่แห่งความคิด (CoT) ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแก้ไขข้อผิดพลาดได้ดีขึ้น

2. DeepSeek R1 แตกต่างจาก LLM อื่นๆ อย่างไร?

>R1 ใช้ CoT ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งทำให้ R1 สามารถแยกคำขอออกเป็น "ความคิด" ย่อยๆ เพื่อวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดก่อนที่จะให้คำตอบสุดท้าย นอกจากนี้ R1 ยังได้รับการพัฒนาให้ทำงานได้ในราคาที่ถูกกว่า LLM อื่นๆ

3. จะสามารถใช้ DeepSeek R1 ได้อย่างไร?

>สามารถใช้ R1 ได้หลายวิธี เช่น
* ติดตั้งและรัน R1 บนเครื่องของคุณผ่าน Ollama และ Open WebUI * ใช้ API บนคลาวด์แบบชำระเงินของ DeepSeek * ใช้ อินเทอร์เฟซเว็บ หรือแอปมือถือฟรีของ DeepSeek

4. DeepSeek R1 มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?

• R1 อาจใช้เวลาในการประมวลผลนานกว่า LLM อื่นๆ เนื่องจากต้องใช้ CoT ในการวิเคราะห์ข้อมูล
• R1 ถูกเซ็นเซอร์เนื้อหาที่ละเอียดอ่อนทางการเมือง
• R1 ยังคงมีข้อจำกัดในด้านความแม่นยำของผลลัพธ์

5. DeepSeek R1 เหมาะกับใคร?

>R1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ LLM ที่มีความสามารถในการใช้เหตุผลสูง แต่มีงบประมาณจำกัด นักพัฒนา นักวิจัย และผู้ที่สนใจ AI สามารถใช้ R1 เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน หรือทดลองใช้งาน AI

6. DeepSeek R1 มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

>R1 มีให้ใช้งานฟรี ผ่าน Ollama, Open WebUI, อินเทอร์เฟซเว็บ และแอปมือถือ แต่หากต้องการใช้ API บนคลาวด์ จะมีค่าใช้จ่าย ซึ่ง DeepSeek อ้างว่ามีราคาถูกกว่าคู่แข่ง

7. DeepSeek R1 มีความปลอดภัยหรือไม่?

>DeepSeek ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้จะถูกเก็บไว้ในประเทศจีน ดังนั้น ผู้ใช้ควรพิจารณานโยบายความเป็นส่วนตัว ก่อนใช้งาน

ข้อมูลเนื้อหาและรูปภาพ https://www.theregister.com/2025/01/26/deepseek_r1_ai_cot/?td=rt-3a

สอบถามหรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่
💬Line: @monsteronline
☎️Tel: 02-026-6665
📩Email: sales@mon.co.th