ทำความรู้จัก PowerApps โปรแกรมสร้างแอพง่ายๆ เพื่อใช้ในองค์กร
วันนี้เราจะมาแนะนำ โปรแกรมที่ช่วยสำหรับสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการทำงานภายในองค์กร นั่นคือ Power app จาก Microsoft ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ด้าน Coding โดยเฉพาะ สามารถลดเวลาในการสร้าง App และลดค่าใช้จ่ายในการจ้าง Software Developer
PowerApps คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสร้างแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชั่นโดยไม่ต้องการความรู้ด้าน Coding ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแหล่งข้อมูลภายในองค์กรได้
โดยข้อดีของ การใช้ PowerApps มีดังนี้
• ซับพอร์ทการแสดงผลผ่าน Smartphone• สามารถทำงานร่วมกับ Office 365, Microsoft Flow, and Microsoft Power BI
• ง่ายต่อการนำเข้าและส่งออกข้ามูล ผ่าน SharePoint, Exel หรือ แอปพลิเคชั่นใน Office 365 อื่น ๆ
• สามารถเชื่อมต่อ Data sources เช่น SQL, SharePoint, PowerBI, Excel, MS Access และอื่น ๆ
• ใช้งานง่าย โดยการสร้างแอปไม่ใช้การเขียนโค้ด
ซึ่ง Power Platform สำหรับ PowerApps ประกอบไปด้วย 3 เครื่องมือที่จะช่วยจัดการกระบวนการทำงานภายในองค์กร ที่สามารถนำมาใช้งานด้วยกันได้
• Power BI : แสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูล
• PowerApps : ดำเนินการและแก้ไขข้อมูล
• Flow : สร้างการอัปเดทข้อมูลอัตโนมัติ
โดยเราสามารถนำเข้าข้อมูลจากที่อื่น เช่น Exel ได้ ตามรูปด้านล่าง
ตัวอย่างการใช้งาน PowerApps สร้าง Sales tool ของ IKEA
ก่อนที่ IKEA จะนำ PowerPlatform มาใช้ เนื่องจากการเกิดปัญหาในต่างๆ เหล่านี้
• มีกระบวนการซื้อที่ซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้พนักงานเป็นจำนวนมาก และใช้เวลาไปถึง 4 เดือน
• ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงต่อวันในการจัดการตารางนัดหมายของลูกค้า
• สูญเสียยอดขายเนื่องจากความไม่สม่ำเสมอในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า
• ขาดความคล่องตัวในการทำงาน ทีมขายของ B2B ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้ เมื่อไม่ได้อยู่ในบริษัท
• ขาดการเก็บฐานข้อมูลกลางเพื่อคำนวนและคาดการรายได้
• ขาดการรายงานยอดขาด ทำให้ไม่สามารถมองภาพรวมของยอดขายได้เต็มที่
ซึ่งการสร้าง App ที่จะมาช่วยแก้ปัญหา ใน IKEA นั้นมี โจทย์อยู่ว่า “พนักงานขายจะต้องใช้เวลาเรียนรู้การใช้ ไม่เกิน 30 นาที” ซึ่งแอปที่ถูกสร้างออกมามีทั้งหมด 4 แอปด้วยกัน
1. Kitchen App
ใช้ PowerApps ในการออบแบบบแบบ Model-driven app ที่มีการนำเข้าข้อมูลจาก Dynamics 365 Field Service (หนึ่งในบริการของ Microsoft) เพื่อใช้จัดการตารางการนัดหมายจากลูกค้า การจองสินค้า และอื่น ๆ
2. Co-worker App
ใช้ Model-driven app เช่นกัน ถูกใช้ในการจัดการตารางงานของพนักงานในออฟฟิต เมื่อมีลูกค้าได้จองสินค้า หรือ นัดหมายต่างๆ ตัวแอปจะมีปฏิทินเพื่อแสดงตารางนัดที่เกิดขึ้น วึ่งจะมีการอัปเดทอยู่ตลอดเวลา
3. B2B App
ใช้เพื่อให้ เซลล์ ติดต่อประสานงานกับ บริษัทที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการสั่งซื้อ ของที่นำไปใช้ในบริษัท และเป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตามการขายตั้งแต่เริ่มจนปิดจากขาย เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการขายสินค้าจำนวนมากและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและพนักงานขาย
4. Customer Support Center (C2C) App
แอปนี้จะใช้ นัดเวลา เลื่อนนัด หรือ ยกเลิกนัด เพื่อช่วยให้เข้าถึงการอัปเดทข้อมูลได้อย่างรวดเร็วขณะที่คุณกับลูกค้า
หลังจากที่ IKEA ได้ใช้งาน App ทั้ง 4 แอปไปได้ประมาณ 6 เดือน ทำให้สามารถแก้ไขปัญที่กล่าวไปข้างต้นได้ดังนี้
• ทีมเซลล์สามารถเห็นภาพรวมของการ นัดหมายต่างๆ และวางแผนการ ติดตั้งได้ดีขึั้น
• ลดเวลาในการจัดการกา่รรายงาน และการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องทำด้วยตนเอง
• รวบรวมฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อการจัดการในระยะยาวได้ง่ายขึ้น
• เพิ่มยอดขายได้จากการติดตามการขาย ง่ายต่อการวิเคราะห์ปัยหาระหว่างการทำงาน
• ลดเวลาในการเทรน ตัวแทนขาย ใหม่ ๆ เพราะB2B เติมโตอย่างรวดเร็ว
• เห็นภาพรวมยอดขาย และนำไปใช้คำนวน และคาดการณ์รายได้ในอนาคต
• มีการจัดลำดับความสำคัญด้านการติดต่อกับลูกค้า เช่น ในช่วงที่วุ่นวายมากๆ พนักงานสามารถโฟกัสไปที่การปิดการขาย และย่นระยะเวลา follow up ลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ IKEA ไม่สามารถทำได้มาก่อน
Written by Nutthaka Ch.
ref
https://www.c-sharpcorner.com/blogs/microsoft-power-apps-introduction
https://www.avepoint.com/blog/office-365/microsoft-powerapps/
https://powerapps.microsoft.com/en-us/blog/ikea-sweden/
Leave a comment